เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าในยุคของเรา ใครๆ ต่างก็อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองค่ะ ซึ่งจุดเริ่มต้นเล็กๆ ของหลายคนอาจเป็นการเปิดร้านขายของออนไลน์บนเฟสบุ๊ค อินสตาแกรม หรือไลน์ ในแต่ละเดือนมีร้านใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่เคยสังเกตไหม ร้านที่หายเงียบไปเพราะไม่มีลูกค้าก็มีไม่น้อยเหมือนกันนะคะ เพราะถึงจะดูง่าย แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่อย่างนั้นเลย ถ้าอยากขายของให้ได้แบบมือโปร ลองมาอ่านวิธีการ 7 ข้อด้านล่างนี้กันก่อนดีกว่าค่ะ

1. สร้างความประทับใจแรกด้วยการตกแต่งร้านให้ดูดี

ใครว่าเปิดร้านค้าออนไลน์แล้วไม่ต้องตกแต่งร้าน ในเมื่อมีร้านเป็นพันเป็นหมื่นอยู่บนออนไลน์เหมือนกัน ลูกค้าก็สามารถเลือกร้านที่ทำให้รู้สึกดีมากกว่าได้ เพราะฉะนั้นคุณควรออกแบบรูปภาพที่ใช้บนร้านของคุณให้สวยและตรงกับภาพลักษณ์ที่ต้องการ เช่น Profile และ Cover Image ของร้านเครื่องประดับ ก็อาจจะต้องดูหรูหรา ถ้าเป็นร้านขนมก็อาจจะต้องดูสดใสและอบอุ่น เป็นต้น เพื่อให้ลูกค้าประทับใจตั้งแต่แรกเห็น และอย่าลืมใส่รายละเอียดของร้านให้ครบเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือมากขึ้นด้วยนะคะ

2. ทำเล, ทำเล, ทำเล

ถึงจะเป็นร้านค้าออนไลน์ คุณก็สามารถกำหนดได้ว่าอยากได้ทำเลที่ดีขนาดไหน ทำเลที่ดีก็คือทำเลที่มีคนเห็นสินค้าเราเยอะๆ แล้วทำอย่างไรล่ะ ให้ร้านเราอยู่ในทำเลที่ดี?คำตอบคือ โฆษณา ค่ะ ซึ่งค่าโฆษณาก็ไม่ต่างอะไรกับค่าเช่าที่ ยิ่งมีคนเยอะ ค่าเช่าที่ก็แพงตาม แต่ก็เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าน่าลงทุนนะคะ ถ้าร้านเราดีจริงๆ ลูกค้าเก่าก็จะกลับมาเรื่อยๆ และลูกค้าใหม่ก็จะมีเพิ่มเรื่อยๆ เช่นกัน

3. ขยันโพสสินค้าทั้งเก่าและใหม่

เมื่อคุณตั้งใจจะขายของ สิ่งที่คุณต้องทำก็คือนำสินค้าของคุณออกมาเสนอผู้ซื้อ ทั้งสินค้าเก่าและใหม่ ยิ่งบนเฟสบุ๊คคุณยิ่งต้องพยายามนำเสนอสินค้าด้วยการโพสต์บ่อยๆ เพื่อให้คนเห็นมากขึ้น แต่ระวังอย่าโพสต์ติดกันเกินไปนะคะ เพราะมันอาจจะสร้างความรำคาญแทน ที่สำคัญ อย่าลืมเลือกเวลาในแต่ละวันแล้วลองโพสต์ดูว่าเวลาไหนที่โพสต์ได้รับการตอบรับมากที่สุด และพยายามเลือกโพสต์เวลานั้นด้วยนะคะ

4. โปร่งใสและตรวจสอบได้

มีผู้ซื้อจำนวนไม่น้อยเลยนะคะที่ใช้เวลาค้นข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนจะซื้อสินค้าออนไลน์ ที่เป็นแบบนี้เพราะร้านค้าออนไลน์นั่นน่าเชื่อถือน้อยกว่าร้านที่มีหน้าร้านจริงๆ ค่ะ เพราะฉะนั้นคุณมีหน้าที่ต้องลงรายละเอียดที่จะช่วยทำให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายให้ครบ ไม่ว่าจะเป็น ราคา ขนาด เกรดของสินค้า วัสดุที่ใช้ รวมถึงระยะเวลาที่คุณจะส่งของให้ได้ และการแจ้งเลขพัสดุ สิ่งเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับร้านของคุณในระยะยาว แถมยังลดการตอบคำถามที่ไม่จำเป็น และลดความปวดหัวทั้งของแม่ค้าและลูกค้าด้วยนะคะ

5. สร้างวินัยให้ตัวเอง

การขายสินค้าออนไลน์อาจจะดูสบาย เพราะคุณไม่ต้องนั่งเฝ้าร้าน ไม่ต้องนั่งคอยลูกค้า แต่นั่นก็เหมือนเป็นดาบสองคมค่ะ เพราะความสบายอาจทำให้คุณละเลยที่จะตอบลูกค้า กว่าจะรู้ตัวอีกทีลูกค้าก็หนีไปหาร้านอื่นแล้ว ดังนั้นคุณควรตั้งกฏเหล็กให้ตัวเอง เช่น จะโพสต์สินค้าอย่างน้อยวันละกี่ครั้ง ลงสินค้าใหม่อย่างน้อยเดือนละกี่ชิ้น จะทำงานตั้งแต่กี่โมงถึงกี่โมง หรือห้ามให้ลูกค้ารอนานเกิน 1-2 ชั่วโมง แต่ถ้าหากคุณเกิดไม่ว่างจริงๆ คุณอาจใช้ระบบตอบกลับอัตโนมัติของ Page365 เพื่อช่วยตอบคำถามลูกค้าและซื้อเวลาให้ตัวเองก่อนก็ได้นะคะ

6. ผิดได้ ขอโทษให้เป็น

หากเกิดข้อผิดพลาดให้ขอโทษอย่างสุภาพและชี้แจงอย่างตรงไปตรงมา คุณอาจใช้จังหวะแบบนี้สร้างความประทับใจที่ดีให้ลูกค้าก็ได้นะคะ เช่น ถ้าลูกค้ายังสนใจสินค้าอยู่ คุณอาจลองเสนอสินค้าที่มีแบบใกล้เคียงกัน พร้อมลดราคาให้เพื่อเป็นการขอโทษ

7. สื่อสารอย่างมืออาชีพ

ไม่ว่าเวลาโพสต์สินค้าหรือการคุยกับลูกค้าทางแชต คุณต้องสามารถให้รายละเอียดที่ชัดเจนได้ เตรียมคำตอบให้พร้อมกับคำถามที่คิดว่าจะถูกถามบ่อยๆ เช่น มีหน้าร้านไหม? มี Line หรือเปล่า? คิดค่าส่งอย่างไร? ทำไมราคาสินค้าจึงแตกต่างจากร้านอื่น? ลดได้ไหม? เป็นต้น ซึ่งถ้าคุณเบื่อที่จะตอบคำถามซ้ำๆ คุณอาจใช้ระบบตอบกลับอัตโนมัติของ Page365 แล้วตั้งให้ระบบตอบคำถามซ้ำๆ จากลูกค้าก็ได้นะคะ

คำแนะนำทั้งหมดถึงแม้จะดูทำได้ยาก แต่รับรองว่าคุ้มค่ากับความเหนื่อยแน่นอนค่ะ นอกจากนี้แล้ว ถ้าคุณพ่อค้าแม่ค้าไม่อยากปวดหัว ลองหันมาใช้ระบบช่วยจัดการร้านค้าของ Page365 ที่ร้านค้ามือโปรกว่า 20,000 วางใจสิคะ เรามีตัวช่วยอย่างระบบบิลออนไลน์ ที่ช่วยทำให้การแจ้งยอด คอนเฟิร์มออเดอร์ หรือแจ้งเลขพัสดุ ลดเวลาการจัดการได้ แถมยังสะดวกกว่าด้วยล่ะค่ะ

หากคุณสนใจใช้งาน Page365 คุณสามารถ สมัครใช้งานฟรี

หรืออ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เริ่มต้นกับ Page365 หรือ ทำไมเราถึงฟรี?